โครงการฝึกอบรม-ฝึกงาน เตรียมพร้อมให้คนพิการเข้าสู่การทำงานในสถานประกอบการ

โครงการฝึกอบรม-ฝึกงาน เตรียมพร้อมให้คนพิการเข้าสู่การทำงานในสถานประกอบการ

หลักสูตร เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน

 

1. หลักการและเหตุผล

ตามที่ได้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ซึ่งกฎกระทรวงว่าด้วยการจ้างงานคนพิการ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2554

แต่จนถึงปัจจุบันมีสถานประกอบการเป็นจำนวนมากยังไม่สามารถจ้างคนพิการตามมาตรา 33 ที่กำหนดให้สถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับคนพิการเข้าทำงานในอัตรา 100 : 1 เนื่องจากผู้พิการยังขาดความรู้ทักษะและความสามารถ มจธ. จึงได้จัด โครงการฝึกอบรม-ฝึกงาน เตรียมพร้อมให้คนพิการเข้าสู่การทำงานในสถานประกอบการ หลักสูตร เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ขึ้น

                        โดยหลักสูตร เจ้าหน้าที่สำนักงาน เป็นหลักสูตรทางเลือกหนึ่งซึ่งสถานประกอบการทุกแห่งจำเป็นต้องมีบุคลากรในสาขานี้ และเป็นอาชีพที่ผู้พิการสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแต่ต้องได้รับการเรียนรู้และฝึกทักษะให้มีความสามารถครบถ้วนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งงานนี้ มหาวิทยาลัยจึงได้จัดทำหลักสูตร และขออนุมัติหลักสูตรเพื่อใช้ฝึกอบรม-ฝึกงาน ตามโครงการดังกล่าว

 

2. วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้พิการได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพด้านการประกอบอาชีพที่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ
  2. เพื่อให้ผู้ผ่านการฝึกทักษะมีทักษะความรู้ที่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน
  3. เพื่อให้สถานประกอบการ ได้ปฏิบัติตาม พรบ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตพิการ พ.ศ. 2550 โดยใช้มาตรา 35
  4. เพื่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน และสร้างเครือข่ายร่วมกันของสถานประกอบการ ผู้พิการ และองค์กรซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับผู้พิการ

     

3.กลุ่มเป้าหมายของโครงการ 

      1. สถานประกอบการ

              สถานประกอบการที่ประสงค์เข้าร่วมในมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 สนับสนุนงบประมาณการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการกับ มจธ.

      2. คุณสมบัติของผู้พิการ ที่เข้าร่วมโครงการ

ผู้พิการที่เข้าร่วมโครงการต้องสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สถานประกอบการระบุไว้ โดยลักษณะความพิการที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย แบ่งออกเป็น

  1. คนพิการทางด้านร่างกาย ที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้วได้อย่างถนัด สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้โดยไม่ต้องมีผู้ช่วยเหลือ สามารถนั่งบนเก้าอี้ได้ หรือนั่งบนรถเข็นแล้วสามารถย้ายตัวเองมานั่งในเก้าอี้ได้ หรือสามารถนั่งในรถเข็นแต่มีความรู้สึก มีประสาทรับรู้ตั้งแต่ช่วงเอวลงไปได้ เช่น พิการขาขาด พิการขาลีบ พิการจากโรคโปลิโอ พิการที่ต้องใช้ไม้เท้า พิการที่ข้อเท้าเป็นต้น

  2. คนพิการทางการได้ยิน ที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาเขียนตามหลักภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และคนไม่พิการทางการได้ยิน เช่น การสื่อสารระหว่างบุคคลด้วยการเขียนตามหลักภาษาศาสตร์ เป็นต้น

  3. คนพิการทางการเห็น ที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องมีผู้ช่วยเหลือ

4. ระยะเวลาดำเนินโครงการ

          ระยะเวลาการดำเนินโครงการรวม 6 เดือน ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน เดือนพฤศจิกายน

5. งบประมาณ

        การดำเนินโครงการจะได้รับงบประมาณจากสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ เป็นจำนวนเงินเท่ากับที่สถานประกอบการต้องจ่ายเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามมาตรา 35 เมื่อสถานประกอบการไม่สามารถจ้างคนพิการครบตามจำนวนที่มาตรา 33 กำหนด โดยสถานประกอบการต้องจ่ายสมทบเป็นจำนวน 109,500 บาท (หนึ่งแสนเก้าพันห้าร้อยบาทถ้วน) ต่อคนพิการ 1 คน

 

6. ผู้รับผิดชอบโครงการ

  1. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

  2. สมาคมนักศึกษาเก่า มจธ.

  3. ศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง (สวท.)

  4. ศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลวง และโครงการตามพระราชดำริ

  5. โครงการมหาวิทยาลัยกับชุมชนและสังคม

     

7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1.   สถานประกอบการมีทางเลือกในการปฏิบัติตามกฏหมาย มาตรา35 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550

  2.   คนพิการได้พัฒนาความสามารถ และค้นพบศักยภาพของตน อันนำไปสู่การมีงานทำ มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

  3.   คนพิการได้พัฒนาศักยภาพในการประกอบอาชีพ และมีความพร้อมเข้าทำงานในสถานประกอบการ

  4.  มหาวิทยาลัยได้ช่วยเหลืองานด้านบริการวิชาการแก่ชุมชนและสังคม

8. สถานที่

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมกล้าธนบุรี

9. คุณสมบัติและการคัดเลือกประเมินวิทยากร

คณะผู้ดำเนินการหลักสูตร ได้กำหนดคุณสมบัติวิทยากร ดังนี้

วิทยากรหลักวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี สาขาที่เกี่ยวข้อง เป็นบุคลากรของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งจากภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  คณะผู้ดำเนินการโครงการจะคัดเลือกวิทยากรโดยพิจารณาผ่านคณะทำงานด้านวิชาการของหลักสูตร โดยพิจารณาจาก คุณวุฒิ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์การทำงาน โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ประกอบกันได้แก่

  • มีคุณทางวุฒิการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่บรรยาย หรือ

  • มีการดำเนินงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง หรือผ่านการอบรม มีความเชี่ยวชาญ ในหัวข้อที่บรรยาย หรือ

  • มีประสบการณ์ในการทำงานในหัวข้อที่บรรยาย ไม่น้อยกว่า 5 ปี

ผู้ช่วยฝึกทักษะภาคปฏิบัติ วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี หรือ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในหัวข้อการบรรยาย ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ นักศึกษาซึ่งผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการดำเนินโครงการ

 

10. การผ่านเกณฑ์และได้รับประกาศนียบัตร

การผ่านเกณฑ์เพื่อรับประกาศนียบัตร ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 80% ของระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการ โดยประกาศนียบัตร แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

ประกาศนียบัตรการสอบผ่านและสำเร็จหลักสูตร เป็นประกาศนียบัตรซึ่ง ผู้เข้ารับร่วมโครงการภาคทฤษฎีและเข้าร่วมกิจกรรมตามระยะเวลาที่กำหนด และทำการทดสอบได้ไม่น้อยกว่า 60%

ประกาศนียบัตรการเข้าร่วมโครงการ เป็นประกาศนียบัตรซึ่ง ผู้เข้ารับร่วมโครงการภาคทฤษฎีและเข้าร่วมกิจกรรมตามระยะเวลาที่กำหนด แต่ไม่ผ่านการทดสอบ หรือได้คะแนนน้อยกว่า 60%

 

11. การประเมินผลประสิทธิภาพโครงการ

  • ประเมินจากแบบสอบถามผู้เข้ารับการอบรม-ฝึกงาน ตามแบบฟอร์มประเมินผลของศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อด้านต่างๆ ดังนี้

      • ด้านเนื้อหาการฝึกอบรม-ฝึกงาน

      • ด้านสถานที่และการบริการ

      • ด้านวิทยากรผู้บรรยาย

        -      ใช้การประเมินจากแบบประเมินผลวิทยากร โดยประเมินในประเด็นเนื้อหา วิธีการนำเสนอ และภาพรวมความพึงพอใจจากผู้เข้าร่วมโครงการ  

 

ทั้งนี้การประเมินจะประเมินผลจะกระทำในวันสุดท้ายของหัวข้อรายวิชา

 

 

 

งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58

งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58
งานเลี้ยงสังสรรค์กับนักกายภาพบำบัด 17 พ.ย 58


วันทีเปิดรับสมัคร
00/00/0000
วันที่อบรม
00/00/0000
วันที่หมดเขตลงทะเบียน
00/00/0000
ราคา
0 บาท

ติดตามเรา